งานวิจัยเผย วัว “บอก” ความรู้สึกแก่เพื่อนๆได้
งานวิจัยฉบับใหม่ระบุว่า วัว “บอก” ความรู้สึกของพวกเขาแก่เพื่อนได้ โดยการใช้โทนเสียงร้องมอๆ วัวมีลักษณะเสียงเฉพาะตัวซึ่งจะคงเสียงเดิมไปตลอดชีวิต นอกจากนี้ก็ยังเปลี่ยนน้ำเสียงให้สูงหรือต่ำได้ตามอารมณ์ วัวจึงแสดงความตื่นเต้น ตกใจ ความสนอกสนใจ หรือทุกข์ใจได้อย่างชัดเจน เมื่อสื่อสารกับเพื่อนตัวอื่นๆ ในฝูง ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ปกติ เช่น ติดสัด หรือเมื่อรู้ว่าอาหารกำลังจะมา หรือในสถานการณ์ที่อันตรายเช่น เมื่อถูกกักขังห้ามกินอาหารหรือโดนแยกออกจากฝูง
การศึกษาดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยซิดนีย์และตีพิมพ์ในวารสารทางวิทยาศาสตร์ชื่อว่า Scientific Reports มีการอัดเสียงแม่วัวจำนวน 18 ตัวเป็นระยะเวลาห้าเดือน ได้ตัวอย่างเสียงวัวทั้งหมด 333 ตัวอย่าง ตัวอย่างเสียงทั้งหมดถูกวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมวิเคราะห์เสียงโดยเฉพาะ การทดลองนี้ถูกรขนานนามว่าเป็น “กูเกิลทรานสเลท” สำหรับภาษาวัว
ก่อนหน้างานวิจัยฉบับนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าแม่วัวสื่อสารกับลูกวัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อทำให้ลูกวัวจำเสียงแม่ได้ และไม่ตอบรับเสียงร้องมอจากวัวตัวอื่นที่ไม่ใช่แม่ ในขณะเดียวกัน แม่วัวจะเคลื่อนไหวโต้ตอบเสียงลูกวัวของตัวเอง ขยับหู มองหา หรือเดินไปทางเสียงลูกของตัวเองเท่านั้น และไม่สนเสียงของวัวอื่นที่ไม่ใช่ลูก
ุุ
“วัวเป็นสัตว์สังคม และชอบอยู่กับฝูง ไม่แปลกเลยหากวัวจะแสดงลักษณะเฉพาะตัวซึ่งเป็นลักษณะที่พวกเขาคงไว้ตลอดชีวิต ไม่ได้มีแค่เฉพาะเวลาลูกวัวเกิดเท่านั้น” อเล็กซานดรา กรีน หัวหน้าคณะนักวิจัยกล่าว “แต่นี่เป็นครั้งแรก ที่เราวิเคราะห์เสียงของพวกเขาได้ ทำให้ได้หลักฐานที่ชัดเจนพิสูจน์ความสามารถนี้ของวัว”
กรีนยังบอกได้ว่าเสียงวัวที่ได้ยินเป็นเสียงของวัวตัวไหน เหมือนกับที่พวกเราจำเสียงเพื่อนๆ มนุษย์ได้ ก่อนหน้านี้ เราเข้าใจว่ามีแต่มนุษย์เท่านั้นที่สื่อสารและ “สนทนา” ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็ทำให้เราได้ค้นพบว่าสัตว์สายพันธุ์อื่นๆ อีกมากมายหลายสายพันธุ์ ก็พูดคุยกันได้เช่นเดียวกัน โดยมีทักษะการสนทนาที่เรียกว่า “ผลัดกันพูด”
งานวิจัยอีกฉบับที่ตีพิมพ์ในปี 2018 รวบรวมหัวข้องานวิจัยที่ระบุว่าสัตว์สื่อสารกับสัตว์เพื่อนๆ ได้โดยใช้หลักการต่างๆ เช่นผลัดกันพูด โดยสื่อสารสั้นๆ และระมัดระวังไม่ขัดสัตว์ตัวอื่นซึ่งกำลังพูดอยู่
เมื่อพูดถึงวัว เราไม่อยากจะคิดเลยว่าว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรทั้ง ๆ ที่เป็นสัตว์สังคม สื่อสารได้ แต่ก็ยังถูกทำร้ายในอุตสาหกรรมอาหาร ในอุตสาหกรรมนมวัว แม่วัวถูกผสมเทียมและถูกบังคับให้ท้องตลอดทั้งชีวิต เมื่อคลอดลูกแล้ว ก็จะโดนจับแยกกันทันที (บางฟาร์มจับแยกหลังคลอดไม่กี่ชั่วโมง เพื่อไม่ให้แม่ลูกผูกสัมพันธ์กัน และไม่ให้ลูกวัวดูดนมแม่วัว)
จากนั้นแม่วัวจะถูกจับต่อกับเครื่องรีดนมเพื่อนำนมไปขายให้มนุษย์ ในฟาร์มส่วนใหญ่ แม่วัวอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ สุขอนามัยที่ไม่ดี และแทบจะไม่ได้รับการดูแลใด ๆ จากสัตวแพทย์ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการอักเสบของเต้านมอย่างรุนแรงและเจ็บปวดอย่างมาก เมื่อใกล้ถึงจุดจบของชีวิตอันแสนสั้น เนื่องจากถูกทารุณมาทั้งชีวิต พวกเขาก็จะถูกส่งไปโรงเชือด
ภาพ: We Animals Media
ในฟาร์มส่วนใหญ่ ลูกวัวจะโดนแยกจากแม่วัว และจากลูกวัวตัวอื่น ๆ และเติบโตโดยไม่ได้รับความรัก ความผูกพัน หลังจากไม่กี่เดือน ลูกวัวตัวเมียจะไปแทนที่แม่วัวตัวที่ถูกส่งไปโรงเชือด และเข้าสู่วงจรผสมเทียมและตกลูก ส่วนตัวผู้จะถูกส่งไปโรงเชือดตั้งแต่ยังเล็ก เพราะว่าวัวตัวผู้ไม่มีประโยชน์ในอุตสาหกรรมนม หลายๆ ครั้งพวกเขาถูกกำจัดหลังจากเกิดได้ไม่กี่วันด้วยวิธีอันโหดร้าย เช่น ทุบหัว ปล่อยให้ขาดอากาศหายใจ หรือ ปล่อยให้อดอาหารจนตาย
ภาพ: We Animals Media
นี่คือภาพจากการสืบสวนของเราในประเทศชิลี
ถ้าคุณคิดว่าสัตว์ไม่ควรมีชะตากรรมเช่นนี้ โปรดพิจารณาเลิกกินพวกเขา การเลิกกินเนื้อ นม และไข่ถึอเป็นการเริ่มต้นที่ดี คลิกที่นี่เพื่อลองร่วมโครงการท้าลอง22วัน เปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคเพื่อสัตว์ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของเราเอง
